24 พฤษภาคม 2564 : นายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ไทยประกันชีวิต ดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคมตามแนวทางของ SDGs (Sustainable Development Goals) โดยมุ่งดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ไม่ว่าจะเป็นผู้เอาประกันภัย พนักงาน ฝ่ายขาย และคนในสังคม ซึ่งจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในปัจจุบัน ไทยประกันชีวิตได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องด้วยมีความห่วงใยและตระหนักถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของ Stakeholders ทุกภาคส่วน
เพื่อมอบการดูแลแก่ผู้เอาประกันภัยอย่างรอบด้าน บริษัทฯ ได้ขยายความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ ครอบคลุมการตรวจโรคโควิด-19 โดยเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจที่ภาครัฐกำหนดและไม่เกินวงเงินกรมธรรม์ สำหรับสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยใน (IPD) คุ้มครองเมื่อตรวจพบเชื้อโควิด-19 ไม่เกินวงเงินค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการก่อนเข้ารักษาตัว
พร้อมกันนี้ ยังขยายความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายได้ ครอบคลุมทั้งการรักษาในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ทั้งนี้ การเคลมค่ารักษากรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน สำหรับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญา บริษัทฯ จะคุ้มครองตามขั้นตอนของการใช้บริการ Fax Claim และโรงพยาบาลที่ไม่เป็นคู่สัญญา สามารถนำส่งใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ ใบรับรองแพทย์ เอกสารเรียกร้องสินไหมผ่านตัวแทนฯ หรือนำส่งด้วยตัวเองได้ที่สาขา CSC และสำนักงานใหญ่ โดยสามารถตรวจสอบโรงพยาบาลคู่สัญญาได้ที่ https://www.thailife.com/โรงพยาบาลคู่สัญญา
และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทาง ผู้เอาประกันภัยยังสามารถเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ และทำธุรกรรมประกันชีวิตด้วยตนเอง (Self Service) ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต อาทิ การตรวจสอบและการเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์, การชำระเบี้ยประกัน, การดาวน์โหลดหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย, การแจ้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษี, การแจ้งรับเงินคืนระหว่างสัญญาผ่านบัญชีธนาคาร, ตรวจสอบสถานะการยื่นเคลมจากทุกช่องทาง เรียกดูประวัติการเคลม พร้อมรายละเอียด, ค้นหาโรงพยาบาลคู่สัญญา, และบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ 24 ชั่วโมง ปรึกษาปัญหาสุขภาพได้ทุกที่ทุกเวลาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลสมิติเวช เฉพาะผู้เอาประกันภัยรายบุคคล ที่มีประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก หรือ OPD
บริษัทฯ ยังมีความห่วงใยผู้เอาประกันภัยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จึงเพิ่มบริการไทยประกันชีวิต Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลคู่สัญญากว่า 30 แห่ง อนุมัติสินไหมสำหรับการรักษาผ่าน Video Call และโทรศัพท์ รวมถึงการใช้บริการตรวจรักษานอกสถานที่กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน
สำหรับบุคลากร บริษัทฯ มีมาตรการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของบุคลากรทุกระดับทั้งในส่วนสำนักงานใหญ่และสาขา โดยจัดรูปแบบการทำงานแบบ Work from Home และ Flexible Working Hour เพื่อลดความแออัด และลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 รวมทั้งจัดจุดคัดกรอง วัดไข้ ดูแลความสะอาด และฆ่าเชื้อตามพื้นผิวและบริเวณต่างๆ ทั้งนี้ หากบุคลากรเข้าข่ายผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยัน (Closed Contact) สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 โดยบริษัทฯ จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ด้านบุคลากรฝ่ายขาย บริษัทฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเอื้อต่อการทำงานของฝ่ายขาย อาทิ แอปพลิเคชัน MDS Plus ที่สามารถนำเสนอขายในลักษณะ Digital Face to Face บริการผู้เอาประกันภัย รวมถึงบริหารทีมงานได้ การจัดอบรมทักษะความรู้ต่างๆ แบบออนไลน์ หรือ Virtual Classroom อย่างไรก็ดี กรณีฝ่ายขายจำเป็นต้องออกไปปฏิบัติงานและให้บริการผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือจากการขาดรายได้ ในระหว่างที่เข้ารับการรักษา และหากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จะได้รับการพิจารณาเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกด้วย
ด้านสังคม บริษัทฯ ยังได้ร่วมเป็นกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมส่งมอบกำลังใจให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ ร่วมกับมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ บริจาคเงินสมทบกองทุนศิริราชรักษภิบาล (สู้ภัยโควิด) ให้แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, บริจาคเครื่องออกซิเจน Hi-Flow ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า, และบริจาคชุดป้องกันสารเคมีแบบเต็มตัวพร้อมฮูดคลุมศีรษะ (ชุด PPE) จํานวน 200 ชุด ให้แก่กองการฌาปนกิจ กรมสวัสดิการทหารบก
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้ร่วมบริจาคผ้าห่มไทยประกันชีวิตให้กับสถานที่รักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ประกอบด้วย โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน (โรงพยาบาลสนามในเขตกรุงเทพฯ), กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา, โรงพยาบาลสนามมณฑลทหารบกที่ 17 ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี, โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี, มอบอุปกรณ์โรงพยาบาลสนามให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จังหวัดนครพนม และโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร จังหวัดสกลนคร รวมถึงบริจาคนํ้าดื่มไทยประกันชีวิต ให้แก่ชุมชนโดยรอบวัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
บริษัทฯ ยังได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินการของพันธมิตร ด้วยการบริจาคนํ้าดื่มไทยประกันชีวิต จํานวน 200,000 ขวด ให้แก่บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนและบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ เดอะมอลล์ ได้จัดพื้นที่สาขาเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลให้แก่ประชาชาน
“ไทยประกันชีวิตพร้อมดูแลเคียงข้างทุกชีวิตในสังคมไทย เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้คลี่คลายลง และขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน” นายไชยกล่าว