13 เมษายน 2564 : นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาด COVID-19 ภายในประเทศระลอกใหม่ที่ปะทุขึ้นจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงแถวทองหล่อ ถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เร่งตัวขึ้นทำสถิติรายวันสูงสุดใหม่ และกระจายตัวไปในหลายจังหวัดเกือบทั่วประเทศ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวังสถานการณ์นี้ไปจนถึงช่วงหลังสงกรานต์
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้มองว่าการระบาดในรอบนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าการระบาดระลอก 2 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยสาเหตุที่ทำให้ บล.ทิสโก้คาดว่าผลกระทบรอบนี้จะน้อยกว่ารอบที่ผ่านมา คือ 1. ระบบสาธารณสุขไทย รวมทั้งประชาชนมีประสบการณ์และได้เรียนรู้จากการระบาดตลอดช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่ายังสามารถรับมือได้ดีทั้งในแง่ของการควบคุมการแพร่ระบาดและการรักษาพยาบาล
2. บุคคลากรทางการแพทย์และบุคคลกลุ่มเสี่ยงเริ่มได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว น่าจะลดการสูญเสีย และทำให้ระบบสาธารณสุขไทยยังเดินหน้าต่อไปได้ และ 3. ความรุนแรงของโรคลดลง สังเกตได้จากอัตราการเสียชีวิตของไทยในปัจจุบันอยู่ต่ำเพียง 0.3% เท่านั้น ขณะที่การระบาดใหม่ ๆ ในช่วงต้นปี และในสิ้นปีที่แล้วที่มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2-3% และ 1.4% ตามลำดับ
นายอภิชาติกล่าวอีกว่า หากอ้างอิงจากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่มีการระบาดภายในประเทศระลอก 2 ดัชนีหุ้นไทยจะผันผวนสูงมากในช่วงวันแรก ๆ ที่เริ่มมีข่าวการแพร่ระบาด หลังจากนั้นจะแกว่งซิกแซกขึ้นลงไปตามสถานการณ์ของจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่เบ็ดเสร็จแล้ว SET Index ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยประมาณ +2% ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ SET Index ก็ยังปรับขึ้นน้อย (Underperform) เมื่อเทียบกับ MSCI World Index และ MSCI Asia ex. Japan Index ที่ในช่วงเวลาเดียวกันปรับตัวขึ้น +9% และ +15% ตามลำดับ
โดยสรุป บล.ทิสโก้มองการปรับตัวลงของ SET Index จากการระบาดรอบนี้ ไม่น่ารุนแรงเหมือนรอบก่อนหน้า โดยมองว่าที่ดัชนีหุ้นไทยในระดับ 1,530-1,550 จุด เป็นจังหวะเหมาะสมที่จะซื้อหุ้นคืน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บล.ทิสโก้ได้แนะนำทยอยแบ่งขายในช่วงที่หุ้นไทยเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด ส่วนโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นนั้นบล.ทิสโก้ไม่คาดว่า SET Index จะฟื้นตัวได้เร็ว และคาดจะแกว่งตัวในทิศทางที่ “Underperform” กว่าหุ้นโลกไปสักพัก จนกว่าจะมีความชัดเจนของสถานการณ์ระบาดช่วงหลังสงกรานต์ จะกระทบต่อแผนการทยอยเปิดประเทศหรือไม่ และเชื่อว่านักลงทุนจะรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกด้วย
สำหรับธีมหุ้นที่เราแนะนำในช่วงตลาดปรับฐานรอบนี้ 1. หุ้นที่คาดงบไตรมาส 1/2564 จะออกมาดี มีโอกาส “Outperform” ในช่วงตลาดเผชิญการระบาดระลอกใหม่ หุ้นที่แนะนำ คือ AEONTS, BCH, CHG, EASTW, KCE, PTT, PTTGC, SCC, SCGP, STGT และ STA 2. หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนีต่างๆ เช่น รายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณในดัชนี MSCI ซึ่งจะประกาศ 11 พฤษภาคม 2564 โดยหุ้นที่เป็นตัวเก็งหลักที่จะเข้าในรอบนี้ คือ SCGP
ขณะที่รายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณ SET50 ซึ่งจะประกาศกลางเดือนมิถุนายน 2564 มีหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ คือ IRPC, KCE, STGT และ STA 3. หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนีเป็นการใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับด้วยสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free Float Adjusted Market Cap.) แนะนำ BBL และ SCC และหากให้เลือกหุ้นที่ชอบมากที่สุดใน 3 ธีมดังกล่าว คือ STGT, SCC และ SCGP