28 กันยายน 2559 : แบงค์ออฟไชน่า รับกระแสรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จัดหนักแคมเปญดอกเบี้ย 3.10% ในสองปีแรก โดยไม่บังคับทำประกันชีวิต แถมด้วยฟรีค่าจดจำนอง 1% กระตุ้นยอดสินเชื่อไตรมาสสุดท้าย
นางสาวพรพิมล ปฐมศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเพื่อบุคคลทั่วไป ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือแบงค์ออฟไชน่า กล่าวว่า ช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้กู้สินเชื่อในการมองหาวิธีการลดภาระหนี้สินผ่านการทำรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย และผู้กู้สามารถขอสินเชื่ออเนกประสงค์จากที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อนำไปตกแต่ง ซ่อมแซม หรือลดหนี้สินอื่นๆ ได้ โดยทางแบงค์นำเสนอดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ต่ำมาก ด้วยอัตราเพียง MLR-3.40% หรือเทียบเท่ากับ 3.10% ในสองปีแรก หลังจากนั้น MLR-1% หรือ 5.50% เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี อยู่ที่ 3.90% ทั้งนี้อัตรา MLR ของธนาคารฯ อยู่ที่ 6.50% โดยไม่มีเงื่อนไขการทำประกันชีวิตร่วม และทางธนาคารฯ คิดยอดผ่อนเพียงล้านละ 6,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอชำระค่าจดจำนอง 1% ให้ผู้กู้อีกด้วย
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า ผู้กู้ที่ทำรีไฟแนนซ์บ้านกับแบงค์ออฟไชน่าจะสามารถลดดอกเบี้ยลงได้เกือบครึ่ง เนื่องจากดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินทั่วไป หลังจาก 3 ปี จะเป็นอัตราลอยตัว โดยเฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 6% นอกจากนี้ยังลดยอดผ่อนต่อเดือนได้มากกว่า 20% เช่น ยอดหนี้คงค้างเดิมที่ 4,200,000 บาท จากที่เคยผ่อนต่อเดือน 34,000 บาท เมื่อเปลี่ยนมาทำรีไฟแนนซ์กับแบงค์ออฟไชน่า ยอดผ่อนใหม่จะอยู่ที่ 25,000 บาท ผู้กู้สามารถประหยัดค่าผ่อนต่อเดือนได้ถึงเกือบหมื่นบาท ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายหรือเก็บออมได้
อนึ่ง : แบงค์ออฟไชน่าเป็นธนาคารที่มียอดสินทรัพย์อยู่ใน 5 ลำดับแรกของโลก มีสาขากว่า 12,000 แห่ง ใน 42 ประเทศ โดยก่อตั้งในประเทศไทยมาแล้วกว่า 22 ปี และให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ลูกค้าชาวไทย ปัจจุบันแบงค์ออฟไชน่ากำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการขยายสาขา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3 สาขา ได้แก่ สาขาสาทร สาขารัชดา และสาขาระยอง เพิ่มเป็น 7 สาขา ประกอบไปด้วย สาขาเมกาบางนา สาขาตลาดไท สาขาขอนแก่น และสาขาหาดใหญ่
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางธนาคารฯ ได้มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศจีน ฮ่องกง (โฮลดิ้ง) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการธนาคารในตลาดฮ่องกง ดังนั้นจะทำให้ธนาคารฯ มีการพัฒนาด้านการให้บริการลูกค้า และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากขึ้น ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่ง ความเป็นสากล และความทันสมัยให้กับแบงค์ออฟไชน่าในประเทศไทย