WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
คปภ. จับมือ กรมการขนส่งทางบก ภาคธุรกิจประกันภัยพัฒนาระบบเทคโนโลยี เชื่อมข้อมูลการทำประกันภัย พ.ร.บ.แบบเรียลไทม์

30 มีนาคม 2564 : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ ระหว่าง สำนักงาน คปภ. กรมการขนส่งทางบก และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อต่อยอดการเชื่อมโยงข้อมูลจากปี 2563 ที่จัดให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ สำหรับการให้บริการชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax และ ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ของกรมการขนส่งทางบก

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเล็งเห็นถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ และชำระภาษีรถประจำปี จึงได้มีการพัฒนาระบบรายงานข้อมูลประกันภัยรถภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance System : CMIS) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลให้ครอบคลุมทุกช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีของกรมการขนส่งทางบกให้มีความรวดเร็ว

โดยมีการเข้ารหัสทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัย ซึ่งภาพการทำงานของระบบเชื่อมโยงข้อมูลนี้ คือ เมื่อประชาชนมายื่นชำระภาษีรถประจำปี กรมการขนส่งทางบกจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับรถมายังสำนักงาน คปภ. อาทิ เลขทะเบียนรถ ประเภทรถ เพื่อตรวจสอบประกันภัยรถภาคบังคับ และเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวในระบบฐานข้อมูล ของสำนักงาน คปภ. แล้ว ระบบจะมีการแจ้งผลการตรวจสอบไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อใช้ประกอบการรับชำระภาษีรถประจำปีจนเสร็จสิ้น

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการพัฒนาระบบดังกล่าว จะช่วยลดภาระทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานของรัฐในการจัดเก็บเอกสารหลักฐาน ส่งผลให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และครบวงจร ซึ่งจะเป็นการยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมธุรกิจประกันภัยไปสู่การประกันภัยดิจิทัลแบบครบวงจร และสอดคล้องกับนโยบายการเป็นรัฐบาลดิจิทัลอีกด้วย

รวมทั้งจะเป็นการลดความสิ้นเปลืองในการใช้กระดาษ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย คำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูล จึงจะมีระบบเก็บรักษาข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงฉบับนี้อย่างปลอดภัยเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

"ความร่วมมือดังกล่าวคาดว่าจะเกิดผลสำเร็จภายในไตรมาส 3 ของปี 256 นี้ ดังนั้นบริษัทประกันภัยต้องเร่งดำเนินการด้านกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการสิ้นเปลืองของกระดาษ และการเชื่อมโยงข้อมูลด้านประกันภัยทั่วประเทศทั้งระบบ ส่วนกรณีที่รถจักรยานยนต์ยังทำประกันภัยไม่ครบถ้วนนั้น มีแนวคิดว่า ให้บริษัทประกันภัยขายประกันแก่รถจักรยานยนต์แบบเหมาะ 2 ปี 3 ปีได้ เพื่อป้องกันการลืมที่จะต่อประกันภัยในปีถัดไป" ดร.สุทธิพลกล่าวเสริม

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะลดระยะเวลา การให้บริการกับประชาชนที่มาติดต่อดำเนินงานด้านทะเบียนและภาษีรถ รวมทั้งลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าและไม่ถูกต้องในการรับชำระภาษีรถประจำปี สอดรับกับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนโยบายรัฐบาลที่ต้องการนำระบบราชการในปัจจุบันยกระดับสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 ซึ่งในปัจจุบันการรับชำระภาษีรถยังคงใช้หลักฐานการจัดทำประกันภัยรถที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครองเป็นเอกสารประกอบ (ในรูปแบบกระดาษ) ทำให้เกิดภาระทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานของรัฐในการจัดเก็บเอกสารหลักฐานดังกล่าว สอดรับกับนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน บูรณาการและยกดับระบบราชการไทยสู่การเป็นระบบราชการ 4.0

สำหรับนายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวขอบคุณทางกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานคปภ. ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนา และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาระบบการประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากภาคประชาชนจะได้ประโยชน์แล้ว ภาคธุรกิจประกันภัยก็จะได้รับประโยชน์จากการลดต้นทุนการใช้กระดาษ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา E- Policy อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โดยภาคธุรกิจประกันภัยจะเร่งในการนำเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในโครงการนี้อย่างเต็มที

"ตนรู้สึกยินดีเพราะรอเวลานี้มาร่วม 20 ปี นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเชื่อมโยงข้อมูลที่สามารถขจัดปัญหากรมธรรม์ปลอมออกไปได้ ซึ่งขณะนี้รถยนต์ รถบรรทุกทำประกันภัยครบ 100% แต่รถจักรยานยนต์ บางส่วนเลี่ยงไม่ทำประกันภัย ดังนั้น แนวคิดที่ทางคปภ.เสนอให้ทำประกันภัยแบบ 2 ปี 3 ปี นั้นก็อาจจะมานำเสนอเบี้ยประกันให้จูงใจในการซื้อ เช่น เบี้ยประกันภัยปีละ 300 บาท หากซื้อแบบ 2 ปี ได้ส่วนลดไป 50 บาท เหลือ 550 บาท เป็นต้น" นายอานนท์ กล่าวสรุป

 

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP