27 กันยายน 2559 : นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เสนอขายกองทุนเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ (SCBGPROP) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท โดยเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 3 ตุลาคม 2559 นี้ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ซึ่งมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่เกินปีละ 12 ครั้ง นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามความเหมาะสมสำหรับภาวะการณ์ในแต่ละขณะ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนข องกองทุนรวมต่างประเทศเพี ยงกองทุนเดียวคือ BGF WORLD REAL ESTATE SECURITIES FUND ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ( USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งมีนโยบายเน้นบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนใน REIT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ภายใต้การบริหารจัดการของ Bla ckRock Investment Management (UK) Limited จดทะเบียนภายใต้กฎหมาย ของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS (มาตรฐานเพื่อการซื้อขายกองทุนข้ามประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป : Undertaking for Collective Investments in Transferable Securities)
นายสมิทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกองทุน BGF WORLD REAL ESTATE SECURITIES FUND ซึ่งเป็นกองทุนหลักเน้นลงทุนใน REITs มากกว่าหุ้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนล่าสุด ได้ลงทุนใน REITs ประมาณ 85% และหุ้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 15% ส่งผลให้กองทุนมีความผันผวน ต่ำกว่ากองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังมีการกระจายลงทุนในภูมิภาคต่างๆ มากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนดังกล่าวในช่วง 3 ปี อยู่ที่ 11.41% และ 1 ปี อยู่ที่ 12.65% (ข้อมูล ณ 31 สิงหาคม 2559 จาก BlackRock Investment Management)
“กองทุน SCBGPROP เป็นทางเลือกเพื่อการลงทุนในระยะยาวนอกเหนือจากการลงทุนในสินทรัพย์ปกติอย่าง เช่นหุ้นและตราสารหนี้ ในช่วงสภาวะตลาดที่ผันผวนและอัตราผลตอบแทนจากตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและสามารถเพิ่ม risk-adjusted return ของพอร์ตลงทุนโดยรวม ทั้งนี้ลักษณะเฉพาะของหลักทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มี ความสัมพันธ์กับความผันผวนของตลาดต่ำ low beta และมีอัตราเงินปันผลสูงกว่ าสินทรัพย์ประเภทอื่น ซึ่งสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำคือ 10 – 15% ของพอร์ตการลงทุน” นาย สมิทธ์ กล่าว