กรุงเทพฯ, 11 มีนาคม 2564 : บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) ประกาศเริ่มต้นความร่วมมือทางธุรกิจอย่างเป็นทางการกับ ทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต เพื่อต่อยอดการส่งมอบนวัตกรรมโซลูชันด้านประกันที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับความต้องการของคนไทยตลอดทุกช่วงชีวิต ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและชีวิตทางการเงินที่ดีอย่างยั่งยืน
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 คนไทยมีความตื่นตัวด้านการเพิ่มความคุ้มครองให้กับตนเองและครอบครัวมากขึ้น โดยพบว่าในปี 2563 คนไทยซื้อประกันคุ้มครองโควิด-19 มากถึง 10 ล้านฉบับ ซึ่งมากกว่าจำนวนของประกันสุขภาพของคนไทยที่มีอยู่ประมาณ 8 ล้านฉบับ เมื่อมองถึงภาพรวมของสังคมไทย ในปี 2564 นี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ หรือ Aged Society อย่างเต็มตัวคือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 20% ของประชากรทั้งหมด
และในปี 2574 เราจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด หรือ Super- Aged Society คือมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ในขณะที่ค่ารักษาพยาบาลโดยเฉลี่ยของไทยสูงขึ้นถึง 9% ต่อเนื่องมาหลายปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกมุมหนึ่งคือ จากตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะเห็นว่าจากจำนวนประชากร 100 คน มีการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตเพียง 43 ฉบับ โดยมีประกันชีวิตแบบบำนาญซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการออมเพื่อใช้หลังเกษียณ ไม่ถึง 1 ฉบับ”
ในฐานะของธนาคารที่มีหน้าที่ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงโซลูชันด้านประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับปัจเจกบุคคลได้อย่างแท้จริง (Segment of One) ในราคาและช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและเพียงพอ (Sufficient Protection) ในทุกช่วงชีวิต เพราะเป็นเสมือนรากฐานในการช่วยสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) อันเป็นเป้าหมายที่ทีเอ็มบีและธนชาตมีความตั้งใจส่งมอบให้กับลูกค้ามาโดยตลอด เช่น บัญชีออลล์ฟรี ที่ได้มอบประกันอุบัติเหตุฟรีให้กับลูกค้าไปแล้วรวมกว่า 1.5 ล้านราย ด้วยความเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่คนไทยทุกคนควรมี เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง
“ความร่วมมือระหว่างพรูเด็นเชียล ประเทศไทย กับทีเอ็มบีและธนชาต จึงเป็นการผสานความแข็งแกร่งด้านธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์เดียวกัน ที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งด้านสุขภาพและการเงิน ซึ่งพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์ และความมั่นคงอันจะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า รวมทั้งความน่าเชื่อถือระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเชี่ยวชาญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในประเทศต่าง ๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา
รวมทั้งในแถบเอเชีย ซึ่งหลายแห่งได้ผ่านการเข้าสู่สังคมสูงวัยไปแล้ว จึงเชื่อมั่นได้ว่า พรูเด็นเชียล ประกันชีวิตจะสามารถส่งต่อแนวทางและพัฒนาโซลูชันที่ช่วยยกระดับความคุ้มครองให้กับคนไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเป็นพันธมิตรกับพรูเด็นเชียลที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกัน ซึ่งมาพร้อมกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (Eastspring Investment) ทำให้มั่นใจได้ว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารจะสามารถนำเสนอโซลูชันที่เป็นมากกว่าเรื่องประกันชีวิต และส่งมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้ากว่า 10 ล้านคนของทีเอ็มบีและธนชาตได้” นายปิติ กล่าวเสริม
“ปัจจุบันพรูเด็นเชียลเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมประกันชีวิตอยู่อันดับที่ 8 ของอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 5 รวมไปถึงมีเป้าหมายที่จะออกแบบโมเดลในการขายประกันในรูปแบบใหม่ ที่ให้ความคุ้มครองเหมาะสำหรับแต่ละช่วยวัยของชีวิต เช่น กลัวเจ็บ-กลัวจน- กลัวตาย โดยจะออกแบบผลิตภัณฑ์แต่ละช่วงชีวิตควรให้น้ำหนักความคุ้มครองต่างกันตามแต่ละบุคคลว่า ควรซื้อประกันเท่าไหร่ช่วงอายุที่ต่างกันออกไป เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแบบประกัน” นายปิติ” กล่าว
นายโรบิน สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า พรูเด็นเชียล ก้าวข้ามขอบเขตการปกป้องและคุ้มครองชีวิต โดยการมอบบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อช่วยให้ผู้คนป้องกันและชะลอการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อีกหนึ่งเป้าหมายของพรูเด็นเชียลคือ การช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ซึ่งในประเทศไทยยังมีจำนวนผู้ถือครองกรมธรรม์ในสัดส่วนที่ยังค่อนข้างน้อย ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
พรูเด็นเชียลจึงอยากมีส่วนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในจุดนี้ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันประกันชีวิต เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และมีความสุขสำหรับทุกคน อีกทั้งเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึง ผ่านช่องทางดิจิทัลสุดล้ำอย่าง Pulse by Prudential แอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพที่จะช่วยให้คนไทยไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต ด้วยเทคโนโยลีสุดล้ำในการมอบคำแนะนำด้านสุขภาพต่าง ๆ
นายอามัน คาพัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานช่องทางการจัดจำหน่าย พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ในขณะที่เรากำลังเตรียมตัวเข้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ในประเทศไทย หนึ่งในเป้าหมายหลักของเราคือการร่วมกันสร้างโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับการขายประกันชีวิตผ่านธนาคาร เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางที่เปลี่ยนแปลงไปในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดผู้บริโภคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค
อีกหนึ่งหัวใจหลักของกลยุทธ์การขายประกันชีวิตผ่านธนาคารของเราคือ การส่งต่อนวัตกรรมโซลูชันต่าง ๆ ผ่านช่องทางธนาคารให้กับลูกค้า และใช้ประสบการณ์ของพรูเด็นเชียลในการฝึกอบรมที่ปรึกษาด้านการเงินของธนาคาร รวมถึงวิธีการพิจารณารับประกันภัยแบบใหม่ ซึ่งจะมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อแก่ลูกค้าของเรา”
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ทีเอ็มบีและธนชาต เรามองที่ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งลูกค้าแต่ละรายล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงชีวิต เราจึงมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำปรึกษา (Trusted advisor) และดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า อีกทั้งยังมีจุดแข็งด้านช่องทางการขายที่เป็น Omni Channel ที่เชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ ทั้งช่องทางสาขาของทีเอ็มบีและธนชาตกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ และแอปพลิเคชัน ทีเอ็มบี ทัช (TMB TOUCH) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า”
โดยพนักงานสาขาทั่วประเทศมีประมาณ 7-8,000 คน ซึ่งจำนวน 90% ล้วนมีใบอนุญาตขายประกันชีวิต ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา 2563 เพียง 9 เดือน ขายประกันชีวิตได้ถึง 1,600 ล้านบาท ซึ่งธนาคารมีฐานลูกค้าจำนวน 10 ล้านคน
การเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่าง พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กับทีเอ็มบีและธนชาตในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดันสังคมไทยสู่ระบบนิเวศน์ทางสุขภาพ (Health Ecosystem) ควบคู่ไปกับการสร้างชีวิตทางการเงินที่มั่นคงอย่างแท้จริง เพราะการประกันชีวิตและประกันสุขภาพถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการวางแผนทางการเงินที่ให้ผลประโยชน์ครอบคลุมด้านคุณภาพชีวิต ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในวงกว้าง รวมถึงการนำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน