10 มีนาคม 2564 : นางสาวศิริพร วงศ์ตรีภพ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มียอดต่อรายการไม่เกิน 49,999 ดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลอื่นเทียบเท่า ลูกค้าทั้งสำหรับธุรกิจและไลฟ์สไตล์หันมาใช้บริการผ่าน K PLUS เพิ่มขึ้นมาก จนจำนวนธุกรรมโอนเงินไปต่างประเทศผ่าน K PLUS สูงกว่าการโอนผ่านสาขา
โดยมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาทต่อรายการ ทั้งนี้เนื่องด้วยข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด และตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจุดเด่นของการโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS คือ ค่าธรรมเนียมถูก สะดวกรวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ ปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน และสามารถตรวจสอบได้
ทำให้ในปี 2563 มีจำนวนธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS เพื่อจ่ายค่าการศึกษา ค่าสินค้า โอนเงินกลับบ้าน และโอนเงินให้ญาติสูงถึง 60,000 รายการ และมีมูลค่าธุรกรรมกว่า 8,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 165%
ในปี 2564 ธนาคารจะเน้นพัฒนาฟีเจอร์โอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การโอนของลูกค้าให้มากขึ้น และสามารถโอนสกุลเงินเพิ่มได้อีก 2 สกุลคือ เงินหยวน (CNY) และ เงินเยน (JPY) ไปยังประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีมูลค่าการโอนออกสูงเป็นอันดับ 2 และ 3 ของประเทศไทย
ทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศผ่าน K PLUS ได้ทั้งหมด 14 สกุลเงิน ครอบคลุม 32 ประเทศทั่วโลก คาดว่ามีมูลค่าธุรกรรมรวม 10,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และวางแผนขยายฟีเจอร์การให้บริการโอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ให้ครอบคลุมทั่วโลกภายในปีหน้า
นางศิริพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการตลาดธนาคารจะมุ่งขยายฐานลูกค้าใหม่ตามสกุลเงินโอนและประเทศปลายทางที่เพิ่มขึ้น โดยได้จัดโปรโมชันค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ 250 บาทต่อรายการ โดยโอนได้สูงสุดเทียบเท่า 49,999 ดอลลาร์ต่อครั้งต่อวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย.นี้
และวางแผนสื่อสารการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มโอนเงินต่างประเทศ เช่น กลุ่มคนเรียนต่อต่างประเทศ กลุ่มนักช้อป กลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัวอาศัยในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย เน้นให้เห็นความสะดวกสบายของการใช้ K PLUS ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์โอนเงินต่างประเทศผ่าน K PLUS ได้ที่ https://kbank.co/3bQVqiC