WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
โควิด…มาช่วยเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน โดดเด่นที่สุด “เทคโนโลยีคอนแทคเลส” จ่ายผ่านบัตร

1 มีนาคม 2564 : หนึ่งปีให้หลังจากการเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของหลายล้านคนทั่วโลก และดูเหมือนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจะไม่มีทางย้อนกลับไปสู่วิถีเก่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปในรอบนี้ เป็นการเร่งตัวที่สอดคล้องกับสถานการณ์ค่อนข้างมาก

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านบัตรเครดิตอย่างวีซ่า ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ในการศึกษาวิจัยระดับโลกฉบับที่สามเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของวีซ่า ภาคธุรกิจโดยรวมในปี 2564 (Visa Back to Business Study – 2021 Outlook) พบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อย หรือ SMB (Small and Medium Businesses) ยังคงเดินหน้าปรับตัวเข้าสู่การค้าในรูปแบบดิจิทัลในปีศักราชใหม่นี้ โดยได้เพิ่มความสนใจไปที่ของความปลอดภัยและวิธีป้องกันการทุจริตมากขึ้น และจะได้เห็นเครื่องมือในการชำระเงินใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในปีใหม่นี้ เช่น “buy now, pay later” (ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง) และการรับการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ

จากการศึกษาของวีซ่าพบว่า ช่วงสิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา 82% ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบการ SMB ยอมรับเทคโนโลยีดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และในปี 2564 บรรดาผู้ประกอบการเหล่านี้ก็ได้ประเมินต่อไปว่าเทคโนโลยีด้านการชำระอะไรที่สำคัญและตรงกับความคาดหวังของผู้บริโภคในปัจจุบัน จากการสำรวจพบว่า ซอฟท์แวร์ด้านความปลอดภัยและป้องกันการโจรกรรมได้รับความสนใจมากที่สุด (47%) รองลงมาคือการรับชำระเงินจากบัตรคอนแทคเลสหรือการจ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ (44%) การรับการชำระเงินด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ (41%) การแบ่งชำระเป็นงวดๆ หรือ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (36%) และระบบปฏิบัติการหลังบ้านของการชำระเงินแบบดิจิทัล (31%)

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดว่า การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ได้รับการตอบรับอย่างก้าวกระโดดคือเทคโนโลยีคอนแทคเลส และ อีคอมเมิร์ซ โดยทั้งสองเกิดจากความจำเป็น และผู้บริโภคต่างเปิดรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ากับพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว ปี 2563 เป็นปีของคอนแทคเลส และ อีคอมเมิร์ซอย่างแท้จริง

นอกจากนั้นผลการศึกษาโดยวีซ่ายังบอกให้เรารู้ได้อีกว่าในปี 2564 เทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการ SMB จะให้ความสนใจมากขึ้นก็คือ ความปลอดภัยและการป้องกันการโจรกรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยต่อยอดการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

จากการศึกษาในครั้งนี้พบว่าสองสิ่งที่สอดคล้องกันในทุกตลาดทั่วโลกคือ การที่ธุรกิจต่างยอมเปิดรับเทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่ ๆ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การศึกษาในประเทศบราซิล แคนาดา เยอรมนี ฮ่องกง ไอร์แลนด์ รัสเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และสหรัฐอเมริกา ได้หยิบยกประเด็นที่สำคัญอันเป็นผลกระทบในปี 2563 และสิ่งที่คาดการณ์ในปี 2564 มานำเสนอไว้ ดังนี้

แนวทางในการฟื้นฟูกิจการสำหรับผู้ประกอบการ SMB ในปี 2564 การชำระเงินแบบคอนแทคเลสคือพระเอกตัวจริงและคาดว่าจะอยู่ยาว: การเพิ่มขึ้นของการชำระเงินแบบคอนแทคเลสทั่วโลกในปี 2563 ที่ถูกผลักดันจากการที่ผู้บริโภคต้องการวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัยกว่าท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงแต่อย่างใดในศักราชใหม่นี้ ที่จริงแล้วในเดือนมิถุนายน 2563 มีเพียง 20% ของกลุ่มตัวอย่างจากผู้ประกอบการ SMB ที่ได้นำเสนอช่องทางการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสเป็นครั้งแรก

แต่ในปัจจุบันกว่า 39% บอกว่าพวกเขาได้เริ่มรับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส โดยเกือบสามในสี่ (74%) ของกลุ่มตัวอย่างคาดว่าผู้บริโภคจะยังคงเลือกวิธีการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสต่อไปแม้ว่าประชากรจะได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม

ลูกค้าอยู่ที่ไหน เจ้าของกิจการต้องตามไปที่นั่น : ผู้ประกอบการ SMB ต่างพยายามมากขึ้นที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าซึ่งก็คือบนโลกออนไลน์ โดย 82%ของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกได้ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการชำระเงินรูปแบบดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 67%ในช่วงหน้าร้อนของปี 2563 ที่ผ่านมา

การรับมือกับการโจรกรรม : เจ้าของกิจการที่คุ้นชินกับเทคโนโลยี (52%) จะลงทุนในด้านการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันการโจรกรรมมากกว่าเจ้าของกิจการที่ไม่ค่อยสนใจด้านเทคโนโลยี (39%) การเพิ่มแนวทางเพื่อรับมือกับการโจรกรรมนั้นอาจเป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่างในธุรกิจในปี 2564 นี้หลังการค้าบนโลกออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง กระนั้นก็ตามการโจรกรรมบนโลกออนไลน์ทั่วโลกยังอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 0.007 เหรียญสหรัฐต่อทุก ๆ 1.00 เหรียญสหรัฐ

ศักราชใหม่มาพร้อมวิถีชีวิตแบบใหม่ของผู้บริโภคผู้บริโภคต้องการ “แตะเพื่อจ่าย”: เพียงชั่วข้ามคืน ผู้บริโภคต่างก็ยกให้เรื่องการป้องกันโควิด-19 มาเป็นประเด็นสำคัญลำดับต้น ๆ ในการจับจ่ายใช้สอย จนนำไปสู่การค้าในรูปแบบ “แตะเพื่อจ่าย” โดยสองในสาม (65%) ของกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคเลือกที่จะชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีเพียง 16 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าพวกเขาน่าจะกลับไปใช้วิธีการชำระเงินแบบเดิมภายหลังสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้สงบลง

ความปลอดภัยมาก่อนการช้อปปิ้ง : ทั่วโลกกำลังรณรงค์เรื่องการสวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะ ในขณะเดียวกันผู้บริโภคเองยังต้องการช่องทางการชำระเงินในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่การใช้เงินสด เซ็นต์สลิป และกดแป้นตัวเลขบนเครื่องรับชำระเงิน โดย 47 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขาจะไม่ซื้อของในร้านค้าที่ไม่รับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส

บัตรชำระเงินต้องสะอาด : การทำความสะอาดบัตรยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 มีมากกว่าสามในห้า (62 เปอร์เซ็นต์) ที่ดูแลรักษาความสะอาดให้บัตรเครดิตของพวกเขา และมากถึง 31 เปอร์เซ็นต์ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อโรคในการทำความสะอาดบัตรของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ข้อมูลเชิงลึกระดับภูมิภาค : การรุกเข้าหาผู้บริโภคปรับสู่ยุคใหม่เมื่อดิจิทัลต้องมาก่อน: เกือบทั้งหมดของผู้ประกอบการ SMB ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (97%) และฮ่องกง (96%) ปรับวิธีการดำเนินธุรกิจของพวกเขาในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 82% ซึ่งในเดือนมิถุนายน มีเพียงสองในห้าของผู้ประกอบการ SMB ในฮ่องกง (40%) ที่ขายสินค้าและบริการบนช่องทางออนไลน์ ในขณะที่ปัจจุบันเกือบสามในห้า (57%) หันมาขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 43%

ผู้บริโภคเลือกช้อปแบบดิจิทัล และให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัย : 82 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคทั่วโลกเพิ่มความรอบคอบมากขึ้นเพื่อป้องกันการโจรกรรม โดยเฉพาะในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีมากถึง 90% นอกจากนี้ผู้บริโภคเกือบทั้งหมดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (96% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 62%จากทั่วโลก) ยังให้ความใส่ใจในเรื่องความสะอาดบนบัตรของพวกเขา

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP