เซินเจิ้น, จีน 22 กุมภาพันธ์ 2564 : ในการบรรยายสรุปทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา หัวเว่ย จัดให้กับสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์เพื่ออุ่นเครื่องก่อนถึงงาน MWC Shanghai 2021 เผิง ซ้ง ประธานฝ่ายการตลาดและขายโซลูชันกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคมของหัวเว่ย ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในหัวข้อ “NetX 2025: The Path to Future Networks” โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์
เผิง ได้ประกาศเปิดตัวรายงาน NetX 2025 White Paper ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลรองรับจากการวิจัยและวิเคราะห์ของ IDC รายงานดังกล่าวนำเสนอโมเดลที่มีชื่อว่า GUIDE เพื่ออธิบายให้เห็นลักษณะของเครือข่ายผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอนาคต
ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา บริการสื่อสารได้พัฒนาขึ้นจากการสื่อสารด้วยเสียงอย่างเดียว เป็นการสื่อสารที่มีดาต้า วิดีโอ และองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย เทคโนโลยีไอทีนำส่งข้อมูลไร้สายก็ได้พัฒนาขึ้นตามบริการสื่อสารเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
เผิง
เปิดเผยว่า ปัจจุบันการพลิกโฉมสู่การเป็นสังคมอัจฉริยะได้เร่งความเร็วขึ้น อุตสาหกรรมทุกหนทุกแห่งกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจดิจิทัล การวางแผนเครือข่ายเป้าหมายให้รองรับกรณีการให้บริการทุกแบบนั้นเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตครั้งใหม่ของผู้ให้บริการเครือข่าย การวางแผนเครือข่ายเป้าหมายนั้นมีจุดประสงค์เพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ ทั้งอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องดำเนินการโดยคำนึงถึงธุรกิจเป็นหัวใจสำคัญ เครือข่ายโทรคมนาคมกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใหม่ ๆ ในด้านบริการและเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องวางแผนเครือข่ายเป้าหมายตั้งแต่วันนี้ เพื่อคว้าโอกาสใหม่ ๆ ในวันข้างหน้า
เผิง ประกาศวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยสำหรับเครือข่ายผู้ให้บริการเป้าหมายของปี 2025 โดยเมื่อประเมินในแง่ความสำเร็จทางธุรกิจและความสามารถทางเทคโนโลยีแล้ว หัวเว่ยเชื่อว่า เครือข่ายเป้าหมายจำเป็นต้องมีคุณลักษณะ 5 ประการด้วยกัน นั่นคือ Gigabit Anywhere, Ultra-Automation, Intelligent Multi-Cloud Connection, Differentiated Experience และ Environment Harmony
Gigabit Anywhere เป็นแก่นสำคัญสำหรับเครือข่ายเป้าหมายในการให้บริการดิจิทัลแก่ผู้ใช้งาน เครือข่ายกิกะบิตเป็นรากฐานที่ช่วยให้บริษัท เมือง และแม้แต่เศรษฐกิจของประเทศหนึ่งเติบโตได้ การเชื่อมต่อระดับกิกะบิตเป็นข้อกำหนดที่พื้นฐานที่สุดสำหรับการใช้งานด้านการผลิตอย่าง VR และ AR ไปจนถึงกล้องระดับอุตสาหกรรม และการรวบรวมข้อมูลการผลิต
Ultra-Automation เป็นหัวใจหลักสำหรับเครือข่ายเป้าหมายที่มีระบบ O&M อัจฉริยะ โดยการที่เครือข่าย 5G กำลังมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายหันมาเปิดตัวบริการเทคโนโลยีดิจิทัลภาคอุตสาหกรรมกันมากขึ้น ทำให้ขนาดและความซับซ้อนของเครือข่ายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องมีระบบอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำบิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ เครือข่ายของผู้ให้บริการจะสร้างมูลค่าได้มากกว่าเดิม ด้วยการปรับการทำงานที่ซับซ้อนให้เป็นอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด และทำให้งานที่คนต้องลงมือทำเองนั้นง่ายขึ้น
Intelligent Multi-Cloud Connection ทำหน้าที่สร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายเป้าหมายสำหรับใช้รวมบริการต่าง ๆ เทคโนโลยีคลาวด์ได้ผ่านการพัฒนามาเป็นเวลาหลายปี จนได้พัฒนาขึ้นจากการเป็นนวัตกรรมไอทีทั่วไปสู่การเป็นนวัตกรรมประมวลผลบนคลาวด์ และก็ต่อยอดขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟ การพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ ได้ขับเคลื่อนให้ระบบไอทีทำงานบนคลาวด์มากขึ้น และการเชื่อมต่อแบบมัลติคลาวด์ก็ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการในการควบคุมต้นทุน ความน่าเชื่อถือของบริการ และการกู้คืนระบบแบบมัลติคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก่อให้เกิดข้อกำหนดใหม่ ๆ ในด้านการเชื่อมต่อแบบมัลติคลาวด์อัจฉริยะ และนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายในการพัฒนาบริการที่ผสานรวมคลาวด์และเครือข่ายไว้ด้วยกัน
Differentiated Experience เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เครือข่ายเป้าหมายต่าง ๆ มีบทบาทสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ แก่นหลักของประสบการณ์ผู้ใช้คือธุรกิจ และแก่นหลักของธุรกิจคือการสร้างรายได้ โดยมีตัวอย่างให้เห็นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างนั้นสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่น ในตลาดองค์กรและหน่วยงานรัฐ ตลาดหุ้นยินดีจ่ายค่าใช้บริการแพงขึ้น 10 เท่าหากลดความหน่วงในเครือข่ายได้ 1 มิลลิวินาที และสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายแล้ว บริการที่แตกต่างนี้มอบประสบการณ์ทั้งที่ดีที่สุดและกำหนดได้ ประสบการณ์ที่ดีจะสนองความต้องการส่วนตัวของผู้ใช้ และประสบการณ์ที่แตกต่างคือสิ่งที่ช่วยให้ผู้ให้บริการสร้างมูลค่าใหม่ได้
Environment Harmony เป็นพันธสัญญาที่เครือข่ายเป้าหมายมีต่อความรับผิดชอบทางสังคม และเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำทั่วโลก โดยผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องหมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยพลังงาน และส่งเสริมเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ทั้งยังควรผลักดันให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมหันมาร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยการมอบการเชื่อมต่อ บริการ ตลอดจนงาน O&M และการใช้งานต่าง ๆ ที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในด้านอุปกรณ์เครื่องมือ พลังงาน การวางเครือข่าย ศูนย์ข้อมูล การดำเนินงาน และการใช้งาน
สำหรับรายงาน NetX 2025 White Paper ซึ่งเปิดตัวระหว่างการบรรยายสรุปอุ่นเครื่องก่อนงาน MWCS นั้น มีข้อมูลที่อธิบายแนวทางของหัวเว่ยในเรื่องเครือข่ายผู้ให้บริการเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อน NetX 2025 ไปจนถึงโมเดล GUIDE เบื้องหลังแนวคิด NetX 2025 ตลอดจนคำแนะนำในการพัฒนา NetX 2025 และนวัตกรรมเทคโนโลยีสำคัญ ๆ สำหรับปี 2025
คุณเผิงได้กล่าวสรุปส่งท้ายว่า โมเดล GUIDE เบื้องหลังแนวคิด NetX 2025 สำหรับเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายนั้น สะท้อนให้เห็นความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในด้านเครือข่ายและการพัฒนาบริการต่าง ๆ ในอนาคตของผู้ให้บริการเครือข่าย หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายและอุตสาหกรรม ในการสำรวจและสร้างเครือข่ายเป้าหมายที่รองรับกับอนาคตและบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจภายในปี 2025