23 กันยายน 2559 : กระทรวงดีอี เดินหน้าผลักดันการดำเนินงาน IPv6 ในประเทศไทย รองรับอัตราการใช้งานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สูงขึ้นต่อเนื่องในยุค IoT

นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน IPv6 ประจำปี 2559 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ว่า ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีความจำเป็นมากต่อการดำเนินชีวิต มีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีที่หลากหลายประเภท จึงทำให้มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้น รวมถึงการเชื่อมต่อกันในหลากหลายอุปกรณ์ที่สามารถสื่อสารถึงกันได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า Internet of Things (IoT)

ส่งผลให้การใช้งานด้วยหมายเลขที่ใช้อ้างอิงการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า IP Address เวอร์ชั่น 4 หรือ IPv4 ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และนอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีสื่อสารอื่นๆ เช่น โทรศัพท์ 3G, LTE หรือ 4G ซึ่งหากเกิดขึ้นจะทำให้ผู้ใช้งานในประเทศต่างๆ ไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นได้อีก

ดังนั้น กระทรวงดีอี หรือ กระทรวงไอซีทีเดิม จึงได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1ธันวาคม 2558 ที่เห็นชอบแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดัน ส่งเสริม เร่งรัด และติดตามผลการดำเนินงาน IPv6 ในประเทศไทย ระยะที่ 2 (พ.ศ.2559 – 2561) และมอบหมายให้กระทรวงดีอี เป็นหน่วยงานหลักทำหน้าที่ในการกำกับดูแล บริหารจัดการแผนปฏิบัติการฯ และรับผิดชอบการขอหมายเลข IPv6 จาก Asia Pacific Network Information Center (APNIC) ให้กับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาดำเนินการตามกิจกรรมที่ระบุไว้ในแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร การส่งเสริมการให้บริการ และการสร้างความตระหนักและส่งเสริมการใช้งาน IPv6

โดยมุ่งเน้นกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ในหลากหลายช่องทาง เพื่อสร้างความตระหนักและให้ความรู้เพื่อผลักดันการใช้งาน IPv6 ในวงกว้างแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและสอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) ในการพัฒนาทุกด้านของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยในอนาคต ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และการแพร่ภาพกระจายเสียง

รวมทั้งการหลอมรวมของเทคโนโลยีทั้งสามด้านที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยมีเป้าหมายการครอบคลุมทุกพื้นที่ และมีขนาดที่พอเพียงกับการใช้งาน มีเสถียรภาพที่มั่นคงในราคาที่เหมาะสม เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การต่อยอดกิจกรรมการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด