21 ธันวาคม 2563 : กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 29.80-30.15 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 29.79 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 7 ปี ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในตลาดโลกและไทยถูกสหรัฐฯ จับตาเรื่องการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเร่งขายดอลลาร์ออกมา ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยมูลค่า 8.6 พันล้านบาท และ 3.6 พันล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการปิดเมืองในยุโรป การกลายพันธุ์ของเชื้อในอังกฤษ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit อนึ่ง ในภาวะเช่นนี้การเปิดรับความเสี่ยงของนักลงทุนอาจถูกจำกัด แม้มีข่าวเชิงบวกหลังสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นทางด้านการคลังมูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมระบุว่าจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากวิกฤตโควิด-19 โดยเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรอย่างน้อย 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และหลักทรัพย์ที่มีหน่วยงานค้ำประกัน (Agency Mortgage-backed Securities) อย่างน้อย 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนต่อไป อย่างไรก็ดี คาดว่าสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดการเงินโลกที่จะเบาบางลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสอาจสร้างความผันผวนให้กับค่าเงินได้หากมีข่าวสำคัญเข้ามากระทบ
สำหรับปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 23 ธ.ค. แต่ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในไทยจะฉุดรั้งการใช้จ่ายช่วงเทศกาล โดยความไม่แน่นอนที่อยู่ในระดับสูงได้เพิ่มความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจ โดยทางค่าเงินบาทต้นสัปดาห์นี้ อ่อนค่าลงหลังไทยพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนกรณีที่ไทยถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จัดอยู่ใน Monitoring List ของประเทศที่บิดเบือนค่าเงินเพื่อสร้างได้เปรียบทางการค้านั้น ทางการระบุว่าจะไม่กระทบการดำเนินนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน