19 กันยายน 2559 : TMBAM ร่วมมือพันธมิตรระดับโลก FTSE Russell ออกกองทุนหุ้นน้องใหม่เน้นลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ชูจุดขายประสิทธิภาพการบริหารกองทุนเชิงรับแบบเพิ่มคุณค่า (Smart Beta) เพื่อเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนพร้อมการควบคุมความผันผวนของพอร์ต
ลงทุนให้อยู่ในระดับต่ำ กำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2559 นี้ ผู้สนใจสามารถลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM) เปิดเผยว่า “ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้นหุ้นไทยได้มีการปรับตัวลดลงพอสมควรจึงถือเป็นโอกาสในการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดทีเอ็มบี Thai Mid-small Minimum Variance ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มค่าเงินลงทุนในระยะยาว”
ดร.สมจินต์ กล่าวต่อว่า “ในฐานะที่ TMBAM เป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive) มีกองทุนดัชนี Index Funds ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คือ กองทุนตระกูล SET50 และกองทุนที่เราพัฒนาดัชนีขึ้นมาเอง คือกองทุนตระกูล Jumbo 25 จนปัจจุบันกองทุนทั้งสองกลุ่มมีสินทรัพย์สุทธิรวมกันกว่า 27,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนทั้งสองกลุ่มจัดเป็นกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ของไทย ดังนั้น การเปิดตัวกองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก น้องใหม่ในครั้งนี้จึงช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้นไทยที่มีการบริหารงานเชิงรับ และยังเติมเต็ม Shelfผลิตภัณฑ์ของ TMBAM ให้ครอบคลุมและครบครันมากยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปแล้วการลงทุนในหุ้นจะมีความเสี่ยงที่สูงยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อลงทุนในหุ้นที่มีขนาดเล็ก ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนไทย TMBAM จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง FTSE Russell บริษัทในเครือตลาดหุ้นลอนดอนผู้ให้บริการข้อมูลการลงทุนสัญชาติ อังกฤษซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาดัชนีลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกเพื่อสร้างดัชนีลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก (พิจารณา ขนาดหุ้นตามมุมมองสากล) พร้อมพัฒนาโมเดลเพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยรวมให้ต่ำกว่าตลาดโดยเรียกชื่อ
ดัชนีลงทุนดังกล่าวนี้ว่า FTSE Thailand Mid/Small Cap Minimum Variance (Total Return)และใช้เป็นต้นแบบสำหรับ กองทุนเปิดทีเอ็มบี Thai Mid-small Minimum Variance ในการลงทุนในหุ้นตามสัดส่วนที่เท่าหรือใกล้เคียงกับน้ำหนักที่เป็น ส่วนประกอบของดัชนี
จุดเด่นที่สำคัญของกองทุนเชิงรับคือการมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับกองทุนเชิงรุก และการลดทอนความเสี่ยงของการตัดสินใจที่อาจผิดพลาดของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น การที่กองทุนเปิดทีเอ็มบี Thai Mid-small Minimum Variance มีการบริหารกองทุนแบบเชิงรับและเพิ่มเติมด้วยโมเดลการควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยรวมด้วยกระบวนการแบบ Optimization จาก FTSE Russell มืออาชีพระดับโลก(จึงถือเป็นการต่อยอดคุณค่าการบริหารกองทุนเชิงรับไปอีกขั้นหนึ่งด้วย หรือศัพท์ทางการเงินโดยทั่วไปจะเรียกว่ากลยุทธ์การสร้าง Smart Beta นั่นเอง” ดร.สมจินต์กล่าว
(อนึ่ง : Optimization คือ การนำค่าความผันผวนของหุ้นและค่าสหสัมพันธ์หรือ Correration ระหว่างหุ้นแต่ละตัวมาสร้างพอร์ตลงทุนที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยรวม)
