WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 22 ธันวาคม 2567 ติดต่อเรา
อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องตกขบวน???

19 กันยายน 2559 : ใกล้ถึงเทศกาลสะสมกองทุน LTF กันแล้ว กูรูด้านการลงทุนจากบริษัทจัดอันดับกองทุน อย่างบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย SET Index โดดเด่นเป็นอย่างมากสร้างผลตอบแทนสูงกว่า 20% ดัชนีอยู่ที่ประมาณ 1540-1550 จุด ซึ่งใครที่ไม่ได้ลงทุนไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้คงจะรู้เสียดายกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์เงินเดือนหรือบุคคลผู้มีรายได้ที่ต้องสียภาษี และเลือกใช้กองทุนคู่แฝดยอดฮิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือทั้งลงทุนและบริหารภาษี

ซึ่งจะว่าเป็นแล้วจากตัวเลขประมาณการเงินไหลเข้าออกกองทุนทั้ง 2 ประเภทที่ช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมาที่ทาง Morningstar ได้ทำการคำนวณไว้นั้นก็บ่งชี้ว่า นักลงทุงส่วนใหญ่ยังไม่ได้เริ่มลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภทกันเลย กลับกันส่วนใหญ่จะเน้นทำการขายออกด้วยซ้ำไป โดยนับแต่ต้นปี 2559 นี้ มีเงินไหลออกสุทธิรวมกันของกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้แล้วกว่า 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินไหลออกสุทธิในส่วนของ LTF ประมาณ 18,000 ล้านบาท และ RMF มีเงินไหลออกสุทธิประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงผิดปกติเมื่อเทียบกับช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาซึ่งจะมีเงินไหลออกเฉลี่ยเพียงไม่เกิน 5,000 ล้านบาท

1474168513060

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้กองทุน LTF และ RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยสามารถทผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงถึงเกือบ 10% ต่อปี ประกอบกับสถานการณ์ทางการลงทุนที่ไม่แน่นนอนในช่วงต้นของปี จึงส่งผลให้นักลงทุนยังคงลังเลที่จะลงทุน อีกทั้งยังมีเรื่องของเกณฑ์การลงทุนในส่วนของ LTF ที่ได้เปลี่ยนจากเดิมที่ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปีปฎิทินนั้น หากใครลงทุนในปีนี้ก็ต้องถือไว้อย่างน้อย 7 ปีปฎิทิน ซึ่งนักลงทุนบางส่วนอาจจะต้องมีการบริหารสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้นตรงจุดนี้

และอีกหนึ่งข่าวสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน LTF ที่เพิ่งจะมีการอัพเดทกันสดๆร้อนๆในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้นั้นก็คือ การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ในการยกเลิกเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ว่าต้องเป็นเงินได้ที่จ่ายค่าซื้อในกองทุนดังกล่าวที่จดทะเบียนภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550

หลังจากที่มีนักลงทุนตกขบวนไปก่อนหน้านี้ ทำให้เป็นบทเรียนที่ดี เนื่องจากช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยได้มีการปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,500 จุดแบบให้หายใจคว่ำ หลายคนไม่ทันตั้งหลักกับดัชนีที่ร่วงระนาวนับ100 จุด และในวิกฤตมักเป็นโอกาสเสมอสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้เข้าลงทุนใน LTF ในช่วงที่ผ่านมา และช่วงที่ดัชนีฟื้นตัวยังไม่ทากมักเป็นจังหวะดีที่เราจะไม่ควรตกขบวนเหมือนครั้งก่อนๆ แต่จะมีกองทุนLTF กองไหนที่ทำผลตอบแทนดีในช่วงที่ผ่านมาให้เราได้เลือกบ้าง

ล่าสุด นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุนรวม บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงข้อมูลดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF เข้ามาทำให้ยอดซื้อขายทั้งปีเป็นบวกเพียงแต่มูลค่าสูงไม่เท่ากับช่วงปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าสูงสุดกว่า 30,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ รวมถึงการขยายระยะเวลาการถือครองจาก 5 ปีปฎิทินเป็น 7 ปี ทำให้นักลงทุนเกิดความลังเล

thumbnail_1474168501430

สำหรับกองทุน LTF ที่สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 5 อันดับแรกที่สร้างผลตอบแทนดีสุด ณ สิ้นเดือนส.ค.59 พบว่า กองทุนของบลจ.กสิกรไทยสามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดที่ 26.32% คือ กองทุน K20Select LTF อันดับ2 กองทุน Phatra Long term Equity Dividend ของบลจ.ภัทร ผลตอบแทน 18.46% อันดับ3กองทุน Krungsri Equity LTF บลจ.กรุงศรี ผลตอบแทนที่ 17.95% อันดับ4 กองทุน MFC Global Long Term Equity บลจ.เอ็มเอฟซี ผลตอบแทน 17.30% อันดับ 5 กองทุนBualuang Long-Term Equity บลจ.บัวหลวง ผลตอบแทน17.17%

thumbnail_1474168508004

ทั้งนี้ หากดูผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี กองทุน LTF ที่ทำผลตอบแทนดีสุด 5 อันดับแรก คือ กองทุน Good Corporate Governance LTF บลจ.ยูโอบี ผลตอบแทนสูงถึง 15.67% อันดับ2 กองทุน Value Plus-DIV LTบลจ.ยูโอบี ผลตอบแทนสูงถึง 14.04% อันดับ 3 กองทุนBualuang Long -Term Equity บลจ.บัวหลวง ผลตอบแทน 14.03%อันดับ 4กองทุนPhatra Long term Equity Dividend บลจ.ภัทร ผลตอบแทน13.36% และอันดับ5 กองทุน1A.M.Selective Growth Long Term Equity บลจ.วรรณ ผลตอบแทน 13.35%

ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการ กองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้น่าจะมีโอกาสไหลเข้ามาเกิน 18,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสนุดท้ายของปีนี้ ที่จะมีเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวเข้ามามากที่สุด ขณะที่ช่วงดัชนีลงค่อนข้างแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดซื้อLTF กับทางบลจ.บัวหลวงจำนวนมาก หากนับรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยยอดขาย LTF ออกจากบลจ.บัวหลวงเมื่อช่วงต้นปีมีประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับลงมามากในช่วงนี้จะทำให้นักลงตัดสินใจซื้อ LTF เพิ่มขึ้น

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทช่วงที่ดัชนีมีความผันผวนแรงในขณะนี้ บริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีการเทขายหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงออกไปบ้าง แล้วหันมาเก็บหลักทรัพย์ที่มีศักยภาพดีเข้าพอร์ตเพิ่มเติม โดยเน้นหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ช่วงที่หุ้นปรับตัวลงรับว่าผลสรุปเป็นจริงที่กองทุนมีการขายหุ้นออก แต่บลจ.บัวหลวงไม่ได้มีการเทขายหุ้นออกอย่างที่เข้าใจกัน เพราะช่วงที่ผ่านมาบลจ.บัวหลวงมีการทยอยเข้าลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP