1 ธันวาคม 2563 : แบงก์กรุงศรีฯ คาดเงินบาทปีนี้ไม่เกิน 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ทั้งปี 64 ตาดว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ถึงแม้ค่าเงินจะแข็งค่าขึ้นแต่คงไม่อยู่ในระดับสูงเหมือนในอดีตที่ 7-8% มั่นใจมาตราการการดูแลค่าเงินบาทของธปท.จะช่วยชะลอการแข็งค่าเงินบาทได้

นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ต ธนาคารกรุงศรีอยุทธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทยังมีความผันผวนในทิศทางแข็งค่าขึ้น แนะนำผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงจากค่าเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าค่าเงินบาททั้งปี2564จะแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าแนวโน้มค่าเงินจะแข็งค่าขึ้นแต่คงไม่อยู่ในระดับสูงเหมือนในอดีตที่ 7-8% คาดว่าจะแข็งค่าเฉลี่ยที่ 4-5% ธนาคารมั่นใจว่ามาตราการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ออกมาต่อเนื่องจะช่วยชะลอการแข็งค่าเงินบาทได้

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทปี 2564 ยังมีความผันผวนจากการดูแลค่าเงินบาทของธปท.และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยไตรมาส 1/2564 คาดว่าค่าเงินบาทอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไตรมาส2/2564 อยู่ที่ 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯไตรมาส3/2564 อยู่ที่ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับปัจจัยชี้นำค่าเงินบาทในช่วงปี2564 นั้น มีหลายประเด็น ประเด็นแรก คือ นโยบายของสหรัฐมีบทบาทสำคัญในการทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ทั้งในเรื่องของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายขนาดใหญ่และความพยายามที่จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากเป็นระยะเวลานาน

ขณะที่การขาดดุลการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้น และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ลดลง ฯลฯ ส่งผลให้เงินทุนมีโอกาสไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่ และไทยอาจได้รับอานิสงค์บ้างบางส่วน ขณะที่นโยบายการเงินและการคลังของยูโรโซนในการรับมือกับ COVID-19 สร้างความหวังเกี่ยวกับเอกภาพของกลุ่มประเทศสมาชิก

นอกจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศที่ชี้นำค่าเงินบาท คือ บัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงเกินดุลเล็กน้อย ขณะที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง สามารถรับมือกับการไหลออกอย่างรวดเร็วของเงินทุน ขณะที่มาตราการของธปท. เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท(จากราคาทองคำและกระแสเงินร้อน)

รวมถึงการ Recycle การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในรูปของการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ สำหรับการออกไปลงทุนในต่างประเทศ และยังมีประเด็นอื่นๆที่นังต้องติดตาม ได้แก่ การพัฒนาและกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid -19 การปิดเมือง หรือการกลายพันธุ์ และบทสรุป Brexit

นายตรรก กล่าวอีกว่า ธปท.มุ่งเน้นมาตรการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและหยืดหยุ่น สนับสนุนการกระจายสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ขีดความสามารถในการลดดอกเบี้ยนโยบายมีจำกัด คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ตรึงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2564 แต่ความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจยังมีสูงท่ามกลางควาใไม่แน่นอน จุดเปราะบางสำคัญอยู่ที่การจ้างงานและหนี้ภาคครัวเรือน

ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกย้ำว่า นโยบายการคลังควรมีบทบาทหลักในการแก้วิกฤตที่เกิดจากโรคระบาดและการปิดเมือง สำหรับลูกค้าของธนาคารมีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงินต่อเนื่อง โดยลูกค้าธนาคารหันมาซื้อประกันความเสี่ยงฯ 50-70% ส่วนกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นทำประกันความเสี่ยงฯเต็ม 100%