30 พฤศจิกายน 2563 : นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำนโยบายในการก้าวสู่การเป็น “บริษัทประกันภัยระดับภูมิภาค” หรือ Regional Company ด้วยการมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ พร้อมที่จะต่อยอดศักยภาพ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญออกไปยังตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อหุ้นเพื่อร่วมดำเนินธุรกิจใน “บริษัท ดารา อินชัวร์รันส์ จำกัด (มหาชน)” หรือ Dara Insurance PLC. ซึ่งประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศกัมพูชา
โดยบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสจากการลงทุนและมองว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งรวมถึงประเทศกัมพูชา สำหรับธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศกัมพูชามีอัตราการเติบโตตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2562 เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 14.2 ต่อปี อีกทั้งจากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (Asean Economic Community: AEC) ในปี 2558 นั้น
ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงตลาดการเงินในประเทศกัมพูชามีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างรวดเร็ว และมีระดับรายได้ของประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการความคุ้มครองทางด้านประกันวินาศภัยมากขึ้นด้วย จากนโยบายการพัฒนาภาคการเงินของประเทศ ซึ่งรวมถึงธุรกิจประกันวินาศภัย มีผลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการทางการเงินและการประกันวินาศภัยได้ง่ายขึ้น นับเป็นโอกาสการขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ และสนับสนุนความต้องการทำประกันวินาศภัยเพิ่มมากขึ้น
จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ผู้บริโภคในประเทศกัมพูชามีกำลังซื้อสูงขึ้น และมีความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเติบโตของตลาดรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ของประชากรประเทศกัมพูชาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดยังมีช่องว่างในการเติบโตอีกมาก
นอกจากนี้ ธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์ก็เป็นอีกธุรกิจที่มีแนวโน้มจะขยายตัวควบคู่ไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ และในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศกัมพูชามีการเติบโตค่อนข้างสูงและมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมากจากการลงทุนจากต่างประเทศ การเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการเติบโตของตลาดรถยนต์ นอกจากนี้ ระดับรายได้ของประชากรยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการความคุ้มครองด้านประกันภัยเพิ่มมากขึ้น
นายสาระ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าถือหุ้นในครั้งนี้นับเป็นการผนึกจุดแข็งเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ Dara Insurance PLC. มากยิ่งขึ้น มุ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศกัมพูชา ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งยังเป็นการผสานความเชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ความต้องการและพฤติกรรมการบริโภค
พร้อมทั้งมีการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัยที่เหมาะสม มุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเน้นนำเสนอแบบประกันภัยที่เข้าใจง่าย และไม่ซับซ้อน ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ขาย โดยเน้นไปที่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยวิศวกรรม และมุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการถือครองกรมธรรม์และเพื่อการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด
นอกจากนี้ Dara Insurance PLC. มีช่องทางการขายหลัก ได้แก่ ช่องทางการขายตรง ช่องทางการขายผ่านธนาคาร Canadia Bank PLC. และ Cambodia Post Bank PLC. ช่องทางตัวแทนและนายหน้าประกันภัย อีกทั้งยังมีโอกาสในการขยายตลาดจากกลุ่มบริษัท Canadia Investment Holding PLC. (CIH) ที่ดำเนินธุรกิจในหลายด้าน เช่น การเงินการธนาคาร ประกันชีวิต สนามบิน อสังหาริมทรัพย์ นิคมอุตสาหกรรม จึงทำให้บริษัท Dara Insurance PLC. สามารถใช้เครือข่ายที่กว้างขวางนี้ในการสร้างฐานลูกค้าได้
รวมถึงบริษัทประกันชีวิตในกลุ่มบริษัท คือ บริษัท Sovannaphum Life Assurance PLC. มีฐานของตัวแทนขายประกันชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัท Dara Insurance PLC. สามารถพัฒนาช่องทางการขายตัวแทนจากตัวแทนของบริษัท Sovannaphum Life Assurance PLC. ได้อย่างรวดเร็ว
Dara Insurance PLC. ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในเดือนธันวาคมปี 2561 และเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 โดยปัจจุบันยอดขายสูงเป็นอันดับที่ 8 จาก 15 ของบริษัทประกันวินาศภัยในกัมพูชา