วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 : ธนาคารออมสิน ประกาศร่วมทุนกับ SAWAD เตรียมทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ดอกเบี้ยต่ำ 18% โดยออมสินเข้าถือหุ้นในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ในเครือ SAWAD สัดส่วนไม่เกิน 49% วงเงินลงทุนไม่เกิน 1,500 ล้านบาท คาดเริ่มดำเนินการได้ต้นปี 2563
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสินได้อนุมัติการร่วมลงทุนกับบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD โดยธนาคารจะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในจำนวนเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลดต่ำลงสู่ระดับ 18% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 24%
ที่ผ่านมา กระบวนการสรรหาผู้ร่วมลงทุนเริ่มต้นจากการอนุมัติเป็นแผนยุทธศาสตร์ของธนาคาร เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ในการที่จะเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้ร่วมลงทุนในหลายขั้นตอนอย่างโปร่งใส โดยธนาคารได้เชิญบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเข้ายื่นข้อเสนอการร่วมลงทุน และมีผู้ยื่นข้อเสนอ จำนวน 8 ราย และท้ายที่สุดได้คัดเลือกเหลือ 1 รายที่ธนาคารจะร่วมลงทุน คือ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด
ทั้งนี้ SAWAD เป็นผู้ดำเนินธุรกิจนอนแบงก์ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีศักยภาพในการแข่งขัน มีประสบการณ์ในธุรกิจจำนำทะเบียนรถมามากกว่า 40 ปี มีความพร้อมให้บริการประชาชนทั้งที่สาขาและธุรกรรมออนไลน์ ธนาคารจึงมีความเชื่อมั่นว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้ จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยประชาชนกลุ่มฐานรากสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้มากขึ้น
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้ถือหุ้น SAWAD เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SAWAD ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารออมสินเพื่อดำเนินธุรกิจจำนำทะเบียนรถ สนับสนุนนโยบายภาครัฐ โดยธนาคารออมสินจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ในสัดส่วน 49% รวมทั้งให้การสนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อ โดยร่วมกันกำหนดเป้าหมายและแผนงานร่วมกันในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
“ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SAWAD ในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ โดยในเบื้องต้นจะเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย เนื่องจากมองว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสินเชื่อสูงและมีจำนวนมาก โดยจะใช้สาขาของ SAWAD ที่มีอยู่เกือบ 5,000 สาขาทั่วประเทศ และของธนาคารออมสิน 1,060 สาขา เป็นช่องทางการให้บริการ” นางสาวธิดา กล่าว.