9 พฤศจิกายน 2563 : เอไอเอส ผู้นำเครือข่ายและบริการดิจิทัลอันดับ 1 ของไทย เดินหน้านำศักยภาพนวัตกรรมเครือข่ายและดิจิทัล แพลตฟอร์ม ผลักดันให้คนไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ ประกาศเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์หนึ่งเดียวในไทยกับ ช้อปปี้ (Shopee) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน สนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ และผู้ซื้อให้ได้รับประสบการณ์ชั้นเยี่ยมบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ เปิดตัวแพ็กเกจ AIS x Shopee
มอบซิมสุดประหยัดพร้อมสิทธิพิเศษให้ผู้ขายบนช้อปปี้ใช้งานแอปพลิเคชัน Shopee ฟรี! แบบไม่คิดค่าเน็ต พร้อมรับเน็ตเพิ่มสูงสุด 4 เท่า บนเครือข่าย AIS 5G ที่ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมโทรฟรีเบอร์ในเครือข่ายเอไอเอส กว่า 40.9 ล้านเลขหมาย และโทรฟรีเบอร์ Shopee Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมยกระดับศักยภาพธุรกิจอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
นายพงษกรณ์ คอวนิช หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์และลูกค้าโพสต์เพด เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ช่วยตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของลูกค้าในทุกมิติ ความร่วมมือระหว่างเอไอเอส และช้อปปี้ ผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งและในระดับภูมิภาคในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกปรากฏการณ์สำคัญที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอสที่ไม่หยุดพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสอดรับกับพฤติกรรมของคนไทยในยุคนิวนอร์มัลที่นิยมซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อต้อนรับมหกรรมช้อปออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด Shopee 11.11 Big Sale เราจึงร่วมมือกับช้อปปี้ออกแบบแพ็กเกจพิเศษที่ตอบโจทย์และตรงใจพ่อค้าแม่ค้าช้อปปี้โดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พ่อค้าแม่ค้าช้อปปี้สามารถสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวสินค้าและบริการได้แบบไม่มีข้อจำกัดแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไรในการขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์ ซึ่งผู้ค้าช้อปปี้สามารถลงทะเบียนรับซิมได้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2563 – 9 ม.ค. 2564 ที่ https://shopee.co.th/m/ais-11
โดยไฮไลท์ความพิเศษจากแพ็กเกจ AIS x Shopee ประกอบด้วย
) 1) รับเน็ตเพิ่มสูงสุด 4 เท่า (เมื่อเทียบกับแพ็กเกจปกติ) โทรฟรีเบอร์เอไอเอส กว่า 40.9 ล้านเลขหมายได้อย่างไม่จำกัด และใช้งาน AIS SUPER WiFi ฟรีไม่จำกัด
2) รับชม YouTube Premium ฟรี 3 เดือน
3) เล่นแอปพลิเคชัน Shopee ฟรี! ไม่คิดค่าเน็ต
4) โทรฟรี Shopee Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง
5) รับ Shopee Ads Credits สูงสุด 3,000 บาท
6) รับสิทธิ์ใช้งาน GrowBiz แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการร้านค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สามารถสมัครเพิ่มได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย)
7) รับส่วนลดเพิ่ม 2,000 บาท เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนที่ร่วมรายการ ได้ที่ AIS Shop ทุกสาขา
นอกจากนี้ เอไอเอสยังเตรียมความพิเศษสำหรับลูกค้าช้อปปี้ ให้ได้เต็มอิ่มกับสินค้าและบริการดิจิทัลจาก AIS แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในร้าน AIS Official บนช้อปปี้ อาทิ สมาร์ทโฟนรุ่นดังในราคาพิเศษ ลดกว่า 50% และเล่นเกมลุ้นรับ THE ONE SIM รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างเอไอเอส และช้อปปี้ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างตลาดการซื้อขายใหม่ๆ ที่ก่อประโยชน์ทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงเป็นการสนับสนุนและขยายขีดความสามารถให้กับคนไทยได้มีช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน”
คุณสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช้อปปี้ จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เอไอเอส พันธมิตรด้านเครือข่ายและบริการดิจิทัลชั้นนำ ในการร่วมสร้างประสบการณ์อันดีเลิศบนโลกอีคอมเมิร์ซผ่านการสนับสนุนผู้ขายด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ตคุณภาพระดับโลก และส่งมอบสิทธิพิเศษบนช้อปปี้ อย่าง Shopee Ads Credits ที่จะช่วยผลักดันให้เหล่าผู้ประกอบการและร้านค้าสามารถจับกระแสการเติบโตในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกันผู้ซื้อ ช้อปปี้ ก็ยังได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษจากเอไอเอส และกิจกรรมความบันเทิงผ่านฟีเจอร์ยอดนิยมของช้อปปี้ อย่าง Shopee Games ในช่วงมหกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ Shopee 11.11 Big Sale นี้ โดยช้อปปี้ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างแนวทางการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ร้านค้าและผู้ประกอบการ รวมถึงร่วมพัฒนาช่องทางสำหรับการจับจ่ายใช้สอยและเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งาน เพื่อเสริมสร้างให้อีคอมเมิร์ซกลายเป็นโลกของทุกคนได้อย่างที่ตั้งใจไว้”
สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปี 2562 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ราว 163,300 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2563 มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นราว 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือราว 220,000 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลจาก Priceza) ซึ่งเป็นผลมาจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยก้าวสู่วิถีความปกติใหม่ หรือนิวนอร์มัลบนโลกดิจิทัลเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเพื่อเติมเต็มความต้องการในชีวิตประจำวัน